หน้าเว็บ

RSS

ตัวอย่างงานวิจัยในชั้นเรียน

1.  การแก้ปัญหาขยะในชั้นเรียน
2.  การจำคำศัพท์
3.  การพัฒนาการอ่าน
4.  วิจัยชั้นเรียน
5.  วิจัยในชั้นเรียน

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ดาวน์โหลดโปรแกรม Flip Album + คู่มือ

นักศึกษาที่ต้องการดาวน์โหลดโปรแกรมติดตั้งไว้ที่เครื่องเพื่อสะดวก
ในการทำงานส่งดาวน์โหลดโปรแกรมพร้อม คู่มือได้ที่นี่นะคะ จะมีไฟล์ 2 parts
นะคะให้ดาวน์โหลดทั้ง part 1 และ part 2 จะเป็นไฟล์ zip เมื่อดาวน์โหลด
เก็บไว้ในเครื่องแล้วให้คลิกขวาเพื่อแตกไฟล์แล้วค่อยติดตั้งนะคะ
 คลิกเพื่อดาวน์โหลด 
part 1   part 2

ส่วนนี่เป็นคู่มือเพิ่มเติมนะคะเผื่อจะช่วยให้เข้าใจมากขึ้น
คู่มือ 1
การแปลงไฟล์ pdf ลงใน flip album คลิก

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

บทเรียนวิชาการพัฒนาสื่อการสอนภาษาอังกฤษ e-learning ด้วยโปรแกรม Flip Album

บทเรียนวันที่ 10-8-54

เนื้อหาบทเรียนวันที่
1.  ค้นหาข้อมูลและการคัดลอกข้อมูลลงใน Flip Album 
2.  การสร้างลิงค์ดาวน์โหลดใน blog ของเรา
3.  การส่งเมล์ถึงตัวเองโดยแนบไฟล์ Flip album ของเราที่ยังทำไม่เสร็จไว้ในเมล์ เพื่อนำมาแก้ไข

เนื้อหาเพิ่มเติมเรื่อง

การแปลงไฟล์ PDF  เพื่อเอาลงใน Flip Album  คลิกดาวน์โหลดคู่มือการแปลงไฟล์ PDF ให้ใช้ใน Flip Album ของเราได้  คลิกเพื่อดาวน์โหลด

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ตัวอย่างการอัพโหลดไฟล์งาน flip album ไว้ใน blog

ดาวน์โหลดเก็บไว้เพื่อแก้ไขต่อ คลิกที่นี่

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ตัวอย่างเว็บที่สร้างสื่อการสอนด้วย Flip Album

.ให้นักศึกษาเข้าไปดูตัวอย่างในเว็บนี้นะคะ
http://www4.chainat.ac.th/teacher_training/index.php/2010-02-20-14-25-54/62-flip1.html

ส่วนอันนี้เป็นเว็บ e-learning การสร้าง e-book ด้วยโปรแกรม desktop author ซึ่่งเป็นอีกโปรแกรมที่สามารถนำมาสร้าง e-book ได้สวยงามเหมือนกัน อาจารย์ว่าจะนำมาสอนเพิ่มเติมอีก อยากให้ลองศึกษาจากเว็บนี้ดูก่อนมีวิดีโอประกอบการสอนด้วยง่ายต่อการเรียนรู้คะ
http://www.horhook.com/wbi/dta/unit1/unit13.html

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

สร้าง E-book ด้วยโปรแกรม Flip Publisher
FLIPPUBLISHER
สามารถสร้างงานได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานทางคอมพิวเตอร์ก็สามารถสร้างได้     สามารถนำชิ้นงานที่มีอยู่แล้วมาดัดแปลงเป็น e-book ได้โดยง่าย เช่น  Microsoft word      ชิ้นงานมีความสวยงามดึงดูดความสนใจผู้เรียน

ปัจจุบันคำว่า e-Book มีการใช้ในหลากหลายบริบท หลายรูปแบบเนื่องจากเทคโนโลยีที่นำมาสร้างสรรค์ e-Book ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจได้ชัดเจนการกล่าวถึง e-Book และแนวทางการพัฒนาควรระบุฟอร์แมตให้ชัดเจน ซึ่งแบ่งได้ดังนี้

  1. e-Book ฟอร์แมต pdb สำหรับการนำเสนอผ่าน PDA ได้จากการแปลงเอกสาร Word หรืออื่นๆ ให้อยู่ในฟอร์แมต .pdb เป็นรูปแบบ e-Book สำหรับการนำเสนอผ่าน PDA ในยุคแรกๆ
  2. e-Book ฟอร์แมต pdf เป็น e-Book ที่มีการกล่าวถึงและพัฒนายาวนานมาก โดยนำเอกสารต่างๆ ทั้งที่เป็นข้อมูล และภาพมาแปลงให้อยู่ในฟอร์แมต .pdf ด้วยโปรแกรมกลุ่ม PDF Converter เช่น Acrobat Professional, PDF Creator, CutePDF, PDF Factory
  3. e-Book ฟอร์แมต Flip Album เป็น e-Book ที่นำเสนอแบบการพลิกหน้าเสมือนจริง (3D-Flip Book) จะต้องใ้ช้โปรแกรมเฉพาะคือ FlipAlbum สร้างสรรค์ โดยการนำภาพ เสียง VDO มาประกอบการนำเสนอพร้อมระบบโต้ตอบกับผู้ใช้ลักษณะต่างๆ ทั้งนี้การนำเอกสารจาก Word หรือเอกสารสิ่งพิมพ์ต่างๆ มาแปลงให้อยู่ในฟอร์แมตนี้ทำได้ยาก โดยผู้สร้างสรรค์ต้อง Copy/Paste และจัดหน้าเองทีละหน้า หรืออาจจะใช้เทคนิคแปลงเอกสารให้อยู่ในรูปแบบ Image แล้วนำภาพข้อความที่ได้มาสร้างสรรค์ก็ได้
  4. e-Book ฟอร์แมต Flip Publisher จากจุดด้อยของ FlipAlbum ในการแปลงเอกสารจาก Word จึงมีการพัฒนาโปรแกรมนี้ขึ้นมาที่ประกอบด้วยฟังก์ชันนำเข้า (Import) ทำให้เอกสารจาก Word นำเข้ามาสร้างเป็น 3D Flip e-Book ได้ง่าย แต่ลูกเล่นก็น้อยกว่า FlipAlbum
  5. e-Book ฟอร์แมต DesktopAuthor เป็นรูปแบบ e-Book ที่พลิกหน้าเสมือนจริงแต่เน้นการนำเสนอผ่านเว็บด้วยไฟล์แบบบีบอัดและมีฟังก์ชันสร้างข้อสอบ แบบสอบถามต่างๆ
  6. e-Book ฟอร์แมต Flash 3D-Flip ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี Flash แสดงผลแบบพลิกหน้าเสมือนจริง ดูตัวอย่างได้ที่ http://stks.or.th/wg/dmslib/ebook ซึ่งมีโปรแกรมให้เลือกใช้หลากหลาย หรือจะรอติดตาม STKS Open Flash e-Book ฟรีจาก STKS ต่อไป

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ทบทวนการบ้าน 3-8-54

งานชิ้นที่ 1

1.  การสร้างสื่อการสอนด้วยโปรแกรม Powerpoint


งานชิ้นที่ 2

1.  การสร้างสื่อการสอนด้วย blog   (ให้นักศึกษาสร้าง blog นำเสนอเนื้อหาตามที่ได้แบ่งหัวข้อให้แล้ว
และให้ทำคู่มือการสร้าง blog ประกอบด้วยดังหัวข้อต่อไปนี้
2.  เริ่มต้นต้องมี อีเมล์ gmail ก่อนก็นำเสนอขั้นตอนการสมัครเมล์จาก gmail
3.  การสมัครสร้าง blog ใหม่โดยเริ่มตั้งแต่การเข้าสู่ http://www.blogger.com/
4.  การตกแต่งบล๊อก
5.  การพิมพ์และนำเนื้อหาลงใน blog
6.  การแทรกภาพลงใน blog
7.  การแทรกวิดีโอลงใน blog
8.  การแทรกกล่องแสดงความคิดเห็นลงใน blog
9.  การแทรกวันที่
10.  การแทรก slide show
11.  การทำลิงค์ดาวน์โหลด  โดยเริ่มตั้งแต่การสมัครเป็นสมาชิกกับเว็บ http://www.4shared.com/ เพื่อฝากพื้นที่ให้ลิงค์ไปดาวน์โหลด

งานชิ้นที่  3

ให้นักศึกษาทำคู่มือการผลิตสื่อการสอนภาษาอังกฤษ ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยให้มีภาพขั้นตอนการใช้งานประกอบพร้อมคำอธิบายดังหัวข้อต่อไปนี้อย่างละเอียด
วิธีการใช้โปรแกรม Flip Album เพื่อผลิตหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ e-learning
1.      การเปิดโปรแกรม
2.      การสร้างหนังสือเล่มใหม่
3.      การเปลี่ยนรูปแบบหนังสือ
4.      การแทรกหน้าหนังสือ
5.      การลบหน้าของหนังสือ
6.      การพิมพ์คำบรรยาย
7.      การเปลี่ยนสีตัวอักษร
8.      การเปลี่ยน Fonts
9.      การแทรกภาพ
10.       การเปลี่ยนพื้นหลัง
11.       แทรกเสียงเพลงหรือคำบรรยาย
12.       การบันทึกหนังสือ
13.       การทำสารบัญ
14.       การแทรกเนื้อเพลงประกอบหนังสือ
15.       การแทรกเนื้อหาเพลงประกอบหน้า
16.       การเปลี่ยนภาพปกหน้าและปกหลัง
17.       การทำสันหนังสือ
18.       การเผยแพร่หนังสือ
19.       การเขียนแผ่น CD ด้วยโปรแกรม Nero

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

การบ้านวันที่ 27-7-54

หัวข้อในการเรียนวิชาการผลิตสื่อการสอนภาษาอังกฤษ

เรื่องการผลิตหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book)  ด้วยโปรแกรม Flip Album

บทเรียน

1.  การดาวน์โหลดโปรแกรม
2.  การติดตั้งโปรแกรม
3.  การใช้โปรแกรมสร้างข้อความ
4.  การเปลี่ยนรูปแบบปกหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
5.  การบันทึกเพื่อแก้ไข้ครั้งต่อไป
6.  การแทรกรูปภาพ


การบ้าน

ให้ผลิตหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ตามหัวข้อเรื่องที่เคยแบ่งไปแล้วในการทำบทเรียนภาษาอังกฤษ
โดยใช้โปรแกรม Flip Album ในการผลิตหนังสือจำนวน 1 เล่ม  แล้วให้ upload ขึ้นบน web blog
โดยให้แบ่งหัวข้อบทความเพื่อรวบรวมการบ้านเป็นหัวข้อบทความการบ้านแล้วให้ไปอัพโหลดงานทั้งหมดไว้ในบทความนั้น และแบ่งหัวข้อให้ชัดเจน  ให้สร้างกล่องแสดงความคิดเห็นเพื่อให้อาจารย์ comment ด้วยนะคะ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

การบ้านวันที่ 3-8-54

ให้นักศึกษาทำคู่มือการผลิตสื่อการสอนภาษาอังกฤษ ด้วยโปรแกรม Flip Album โดยให้มีภาพขั้นตอนการใช้งานประกอบพร้อมคำอธิบายดังหัวข้อต่อไปนี้อย่างละเอียด
วิธีการใช้โปรแกรม Flip Album เพื่อผลิตหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ e-learning
1.          การเปิดโปรแกรม
2.          การสร้างหนังสือเล่มใหม่
3.          การเปลี่ยนรูปแบบหนังสือ
4.          การแทรกหน้าหนังสือ
5.          การลบหน้าของหนังสือ
6.          การพิมพ์คำบรรยาย
7.          การเปลี่ยนสีตัวอักษร
8.          การเปลี่ยน Fonts
9.          การแทรกภาพ
10.       การเปลี่ยนพื้นหลัง
11.       แทรกเสียงเพลงหรือคำบรรยาย
12.       การบันทึกหนังสือ
13.       การทำสารบัญ
14.       การแทรกเนื้อเพลงประกอบหนังสือ
15.       การแทรกเนื้อหาเพลงประกอบหน้า
16.       การเปลี่ยนภาพปกหน้าและปกหลัง
17.       การทำสันหนังสือ
18.       การเผยแพร่หนังสือ
19.       การเขียนแผ่น CD ด้วยโปรแกรม Nero








  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ขั้นตอนการทำลิงค์ดาวน์โหลดจาก blog ของเรา

เนื้อหาบทเรียนวิชาการพัฒนาสื่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ

เรื่องการทำเว็บบล๊อกเพื่อพัฒนาสื่อการเรียนการสอน

เนื้อหาบทเรียนวันที่ 22/6/2554

การทำลิงค์ดาวน์โหลดจากเว็บบล๊อกของเรา
คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดเนื้อหาบทเรียน

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

หลักสูตร Fluent English: Perfect Natural Speech, Sharpen Your Grammar

เมื่อเราอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ 1 เล่มซึ่งมี mp 3 ให้เราฝึกฟังและฝึกพูด และมีแบบฝึกหัดให้เราฝึกตามในลักษณะต่าง ๆ ทั้งการคิด เขียน ในสถานการณ์ต่าง ๆ แม้เราจะไม่มีโอกาสไปเข้าชั้นเรียนจริง ๆ ไม่มีครู ไม่มีเพื่อนร่วมเรียน แต่ถ้าหากว่าหนังสือหรือชุดเรียนนั้นออกแบบมาดี และเราตั้งใจฝึกหัดอย่างมีวินัย เราก็สามารถเรียนจบหลักสูตรได้อย่างมีความสามารถ โดยไม่จำเป็นต้องรับวุฒิบัตรซึ่งรับรองการผ่านหลักสูตร ในบล็อกนี้ มี “หลักสูตร” ในความหมายที่ว่ามานี้มากมายให้ท่านศึกษาและปฏิบัติด้วยตัวเอง และวันนี้ดิฉันให้ท่านพิจารณาอีก 1 หลักสูตร คือ
หลักสูตร Fluent English: Perfect Natural Speech, Sharpen Your Grammar
มีทั้งหมด 20 บท แต่ละบท คือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ให้ท่านฝึกภาษาอังกฤษจริงในชีวิตประจำวัน โดยแต่ละบทจะมี 10 ส่วนย่อยดังนี้


1. Say it clearly !
2. English at work
3. Build your vocabulary
4. English under the hood
5. Phrasal verbs
6. Real English
7. Bring it all together
8. Listen up
9. Why do they do that?
10. Answer keys


คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด ตำรา
ส่วนไฟล์ MP 3 ในการฝึกฟัง Listening คลิกเพื่อดาวน์โหลด
Lesson01 Track01- HOW Long Have YOU Been Here.mp3
Lesson01 Track02- HOW Long Have YOU Been Here.mp3
Lesson01 Track03- HOW Long Have YOU Been Here.mp3


Lesson02 Track04- Don't GO Away!.mp3
Lesson02 Track05- Don't GO Away!.mp3
Lesson02 Track06- Don't GO Away!.mp3


Lesson03 Track07- What Would YOU Like TO DO.mp3
Lesson03 Track08- What Would YOU Like TO DO.mp3
Lesson03 Track09- What Would YOU Like TO DO.mp3


Lesson04 Track10- Laughing ALL THE WAY TO THE Bank.mp3
Lesson04 Track11- Laughing ALL THE WAY TO THE Bank.mp3
Lesson04 Track12- Laughing ALL THE WAY TO THE Bank.mp3


Lesson05 Track13- THE Customer's Always Right!.mp3
Lesson05 Track14- THE Customer's Always Right!.mp3
Lesson05 Track15- THE Customer's Always Right!.mp3


Lesson06 Track16- I Have GOT TO Have A NEW CAR!.mp3
Lesson06 Track17- I Have GOT TO Have A NEW CAR!.mp3
Lesson06 Track18- I Have GOT TO Have A NEW CAR!.mp3


Lesson07 Track19- Pushing THE Envelope.mp3
Lesson07 Track20- Pushing THE Envelope.mp3
Lesson07 Track21- Pushing THE Envelope.mp3


Lesson08 Track01- Your Rights AND Responsibilities.mp3
Lesson08 Track02- Your Rights AND Responsibilities.mp3
Lesson08 Track03- Your Rights AND Responsibilities.mp3


Lesson09 Track04- This IS Paradise, Isn't IT.mp3
Lesson09 Track05- This IS Paradise, Isn't IT.mp3
Lesson09 Track06- This IS Paradise, Isn't IT.mp3


Lesson10 Track07- Take ME OUT TO THE Ball Game!.mp3
Lesson10 Track08- Take ME OUT TO THE Ball Game!.mp3
Lesson10 Track09- Take ME OUT TO THE Ball Game!.mp3


Lesson11 Track10- Snail Mail Just Won't CUT IT!.mp3
Lesson11 Track11- Snail Mail Just Won't CUT IT!.mp3
Lesson11 Track12- Snail Mail Just Won't CUT IT!.mp3


Lesson12 Track13- She'll WIN BY A Landslide!.mp3
Lesson12 Track14- She'll WIN BY A Landslide!.mp3
Lesson12 Track15- She'll WIN BY A Landslide!.mp3


Lesson13 Track16- Pride OF Wonership.mp3
Lesson13 Track17- Pride OF Wonership.mp3
Lesson13 Track18- Pride OF Wonership.mp3


Lesson14 Track19- HIT THE Books!.mp3
Lesson14 Track20- HIT THE Books!.mp3
Lesson14 Track21- HIT THE Books!.mp3


Lesson15- a.Let's GET Together Sometime!.mp3
Lesson15- b.Let's GET Together Sometime!.mp3
Lesson15- c.Let's GET Together Sometime!.mp3


Lesson16- a.Watercooler Conversations.mp3
Lesson16- b.Watercooler Conversations.mp3
Lesson16- c.Watercooler Conversations.mp3


Lesson17- a.This Diet MAY Work FOR YOU!.mp3
Lesson17- b.This Diet MAY Work FOR YOU!.mp3
Lesson17- c.This Diet MAY Work FOR YOU!.mp3


Lesson18- a.GET Into Shape!.mp3
Lesson18- b.GET Into Shape!.mp3
Lesson18- c.GET Into Shape!.mp3


Lesson19- a.911, Emergency!.mp3
Lesson19- b.911, Emergency!.mp3
Lesson19- c.911, Emergency!.mp3


Lesson20- a.Just Shooting THE Breeze.mp3
Lesson20- b.Just Shooting THE Breeze.mp3
Lesson20- c.Just Shooting THE Breeze.mp3


พิพัฒน์
www.facebook.com/e4thai
GemTriple@gmail.com


ฝึกการฟัง จากเรื่องง่าย ๆ สำหรับผู้เริ่มต้น

หลายท่านที่ฝึก listening skill เมื่อฟังเรื่องระดับใดรู้เรื่องแล้ว ก็พยายามยกระดับเรื่องที่ฟังให้ยากขึ้นไปตามลำดับ การฝึกเช่นนี้นะคะ เพราะทักษะการฟังของท่านจะสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ดิฉันต้องขออนุญาตนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นสื่อในการเรียนการสอน

มีวิธีง่าย ๆ ในการฝึกพูด ดังนี้
1.  ให้ฟังเรื่อง่าย ๆ ที่เราฟังรู้เรื่องทั้งหมด หรือ รู้เรื่องเป็นส่วนใหญ่ (ตอนฟังอนุญาตให้ใช้ปากกา note ชวยจำได้)
2.ให้เล่าเรื่องนั้นเป็นภาษาอังกฤษด้วยคำพูดของเราเอง  หรือจะพูด copy เรื่องที่ฟังก็ได้  ดูซิว่าเราจะเล่าได้ไหม
3.ถ้าเล่าไม่ได้ก็ฟังซ้ำจนจบเป็นตอน ๆ (หรือจบทั้งเรื่องก็ได้) แล้วพยายามเล่าออกมาให้ได้อีกครั้ง
4.ถ้ายังเล่าไม่ได้ หรือเล่าได้ไม่ดี หรือเล่าได้ไม่ครบ ก็ฟังซ้ำอีก และเล่าด้วยสำนวนภาษาของตัวเอง (หรือ copy คำที่ได้ยินก็ได้) ฟังซ้ำ – เล่าซ้ำ อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ทีละตอน หรือทีละเรื่อง จนกว่าจะพูดได้

การฝึกพูดจากเรื่องที่เราฟังรู้เรื่อง  ง่ายกว่าฝึกพูดจากเรื่องที่เราฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง  เพราะการฟังรู้เรื่อง จะช่วยให้...
3..เราสามารถนำศัพท์และโครงสร้างประโยคที่เราเข้าใจ นำมาพูดด้วย      ปากของเราเอง (หรือการ copy ก็ยังหมายความว่า เรารู้จักศัพท์และโครงสร้างประโยค            เพราะถ้าเราไม่รู้จักศัพท์หรือโครงสร้างประโยค  ก็ยากที่เราจะ copy มาพูดได้                     
 1.เรามีกำลังใจ เพราะอย่างน้อยเรารู้สึกว่าเราประสบความสำเร็จขั้นแรก คือฟังรู้เรื่อง
2.การฟังรู้เรื่องในข้อ 1.แปลว่า เรารู้ความหมายของศัพท์ และเข้าใจการผูกประโยค ซึ่งนำไป  สู่ข้อปฏิบัติที่ 3 คือ

ไฟล์ pdf และ mp3 ของสารคดีสำหรับเด็ก 2 เรื่องต่อไปนี้ คือ  Wonders of the Past  และ  Incredible Earth  เป็นเรื่องง่าย ๆ ฟังง่าย ๆ ที่ผมเสนอให้ท่านฝึกพูดด้วย   หน้าที่ของท่านคือ ขอให้ทำเรื่องที่ฟังง่าย กลายเป็นเรื่องที่พูดหรือเล่าง่าย ๆ ตามไปด้วย   มันอาจจะไม่ง่ายในตอนแรก ๆ แต่ถ้าฝึกไปเรื่อย ๆ มันก็จะง่ายนะคะ


ในการเรียงพยัญชนะไทย ช.ชำนาญ มาก่อน ซ.ฝึกซ้ำ ๆ 
แต่ในการฝึกภาษาอังกฤษ ซ.ฝึกซ้ำ ๆ  ต้องมาก่อน  ช.ชำนาญเชิญหาความชำนาญ       
กับการฝึกซ้ำ ๆ กับไฟล์ mp 3 ข้างล่างนี้ได้เลยคะ                                                              
หมายหตุ: เมื่อคลิกลิงค์ไฟล์ mp3 แล้ว ถ้าท่านต้องการฟังโดยไม่ดาวน์โหลดก็ให้รอจนปุ่ม play สามเหลี่ยมปรากฏ และคลิกที่ปุ่ม play นั้น   แต่ถ้าท่านต้องการดาวน์โหลดไฟล์ mp3 ไว้ฟังคราวหน้า ก็คลิกที่ ดาวน์โหลดเดี๋ยวนี้

ขอขอบพระคุณ  คุณพิพัฒน์  ผู้นำมาเผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานความรู้แก่ผู้ที่สนใจศึกษา

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

สื่อการเรียนเรื่อง Tense

1.  สื่อการเรียนเรื่อง Present Simple  คลิกเพื่อดาวน์โหลด

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

การใส่เพลงลงใน blog ของเรา

วันนี้เรามาดูการใส่เพลงลงในบลอคกันค่ะ
1. เราต้องมีไฟล์เพลงที่ต้องการใส่ลงในบลอคก่อนนะคะ ซึ่งส่วนใหญ่ทุกคนคงจะมีเป็นไฟล์ .mp3 หรือ .wma นำไฟล์เพลงไป upload ไว้ตามเวบที่รับฝากไฟล์ก่อนนะคะ (file hosting) เพื่อจะให้ได้ URL ของไฟล์เพลงนั้นมา ดูวิธีการ upload ไฟล์ได้ที่บลอคของป้ามดค่ะ Click
แต่โดยส่วนตัวแล้ว ตอนนี้ยังหาเวบรับฝากไฟล์ที่ถูกใจไม่ได้เลยค่ะ บังเอิญไปเจอเวบที่แจก URL เพลง คือเวบ GetCode มีช่องให้ค้นหาเพลงที่ต้องการด้วยค่ะ หรือเมื่อเข้าไปหน้าแรกแล้ว ให้เข้าไปที่เมนู "รายชื่อเพลง" จากนั้นกดเลือกเพลงที่ต้องการค่ะ ดังรูป
GetCode
2. Copy URL ในช่องสี่เหลี่ยมในกรอบแดงเก็บไว้ก่อนค่ะ อันนี้คือ URL ของเพลง
3. มาดูโค้ดใส่เพลงกันค่ะ
<embed name="objMediaPlayer" pluginspage="http://www.microsoft.com/Windows/MediaPlayer/" src="http://www.bzro.net/getcode/pj.php?1776" width="300" height="47" type="application/x-mplayer2" autostart="false" loop="false" showstatusbar="true" /> </embed />
มาดูการกำหนดค่าในแต่ละ attribute กันนะคะ
  • src: บริเวณที่ไฮไลท์ไว้ ให้ใส่ URL ของเพลงค่ะ (URL จากข้อ 2)
  • width: กำหนดความกว้างของ Window Media Player
  • height: กำหนดความยาวของ Window Media Player
  • autostart: true ถ้าต้องการให้เพลงเล่นทันทีเมื่อเข้ามาในเวบ / false เพลงจะเล่นต่อเมื่อผู้ใช้กดปุ่ม play ก่อน
  • loop: true เล่นเพลงวนไปเรื่อย ๆ / false เล่นเพลงครั้งเดียว / n ใส่ตัวเลขจำนวนครั้งที่จะให้เพลงวน
  • showstatusbar: true แสดง status bar / false ไม่แสดง status bar (status bar คือ แถบสีดำล่างสุดที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับเพลง เช่น ชื่อเพลง เวลา สถานะ เป็นต้น)
  • volume: กำหนดความดังของเพลง สามารถใส่ตัวเลข 0 - 100 ค่า default ของ Window คือ 50 ค่ะ
4. หลังจากกำหนดค่าต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ให้นำโค้ดไปใส่ตอนเขียนบลอค โดยกดปุ่ม ก่อนค่ะ เพื่อเข้าสู่ HTML Mode จากนั้นใส่โค้ดลงไป แล้วกดปุ่ม อีกทีค่ะ จะเห็น Window Media Player ขึ้นในหน้าเขียนบลอคแล้วค่ะ แล้วก็ Publish ได้เลยยย
5. เสร็จแล้วค่ะ แค่นี้ก็มีเพลงเพราะ ๆ ฟังในบลอคของคุณแล้วค่ะ (^ ^)V
ข้อแนะนำ (ความเห็นส่วนตัว)
  • ควรกำหนดค่า autostart เป็น false เพื่อให้ผู้ใช้ตัดสินใจเองว่า จะฟังเพลงนี้รึป่าว เป็นการลดเวลาในการโหลดด้วยค่ะ
  • ถ้าต้องการให้เพลงเล่นวนไปเรื่อย ๆ ควรกำหนดค่า loop เป็นจำนวนครั้งที่ต้องการให้เพลงเล่นที่แน่นอน
  • ควรกำหนดค่า showstatusbar เป็น true เพื่อให้ผู้ใช้ทราบสถานะของเพลง เช่น เพลงกำลัง Buffer อยู่กี่เปอร์เซนต์

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

วิชาการพัฒนาสื่อการสอนภาษาอังกฤษ

รอการปรับปรุง

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

งานการพัฒนาสื่อการสอนด้วย blog

งานวิชาการพัฒนาสื่อการสอนภาษาอังกฤษ    สัปดาห์ที่ 4  
ให้นักศึกษาสร้างบทความลงใน blog ที่ได้สร้างไว้แล้วดังหัวข้อต่อไป
1.  English for business (พระนนท์นันท์)
2.  English for hotel (พระมหาบุญส่ง)
3.  English for kids (สามเณรทวีชัย)
4.  English for communication  (พระพีระพงศ์)
5.  English for linguistics (พระวิชาญ)
6.  Grammar (พระสีพร)
7.  Conversation  (ในสถานการณ์ต่างๆ ควรมี video และ dialogues ประกอบ)  (พระวีระศักดิ์)
8.  Vocabulary (พระยงยุทธ)
9.  English for tourism (พระมหาเชิด)



  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ทดสอบ

ทดสอบการสร้างบทความ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Chat Room's Jidapa